เสือมังกรเป็นเกมไพ่ที่ถูกยกให้เป็นไพ่พี่ไพ่น้องกับบาคาร่า เพราะรูปแบบการเล่นที่คล้ายกันไม่ว่าจะเป็นการเดิมพันที่มีอยู่ 2 ฝั่ง คือ เสือ กับ มังกร (ถ้าเป็น บาคาร่า จะเป็น เจ้ามือ กับ ผู้เล่น) การชี้ผลแพ้ขนะด้วยแต้มที่สูงกว่า เป็นต้น
แต่สิ่งที่ทำให้เสือมังกรมีความแตกต่างคือ ใช้ไพ่เล่นแค่ฝั่งละ 1 ใบ ไม่มีการเรียกไพ่เพิ่ม ไพ่ทุกใบจะมีค่าคือไพ่ Ace มีค่าต่ำสุด และไพ่ K มีค่ามากที่สุด อัตราแพ้ชนะของเกมนี้คือ 50 / 50 ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับเกมพนันชนิดอื่น
ในช่วง 15-40 วินาทีแรกจะเป็นช่วงเวลาที่เปิดให้เราวางเดิมพัน โดยเลือกได้ว่าจะทาย เสือชนะ (Tiger), มังกรชนะ Dragon) หรือ เสมอ (Tie) เมื่อหมดเวลาดีลเลอร์จะปิดรับเดิมพัน แล้วค่อยแจกไพ่ให้ฝั่งละ 1 ใบ
เมื่อแจกไพ่ครบแล้วดีลเลอร์จะหงายไพ่วัดแต้ม ฝั่งที่มีแต้มมากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ กรณีที่แต้มเท่ากันจะถือว่าเสมอ ดังนั้นถ้ามีการวางเดิมพันฝั่งเสือ หรือมังกร หากผลออกมาเป็นเสมอจะถือว่าแพ้ แต่จะเสียเดิมพันแค่ครึ่งเดียว ยกตัวอย่างเช่น แทงเสือ 100 บาท ผลออกมาเป็นเสมอ คาสิโนจะคืนเดิมพันให้ 50 บาท ส่วนอีก 50 บาทจะถูกหักไว้ให้คาสิโน
อัตราจ่ายของเสือมังกรจะแบ่งตามฝั่งที่วางเดิมพันดังนี้
ไพ่เสือมังกรจะนับแต้มจากหน้าไพ่เท่านั้น โดยที่ดอกไพ่จะไม่มีผลต่อขนาดไพ่ เช่น 2 ดอกจิก กับ 2 ข้าวหลามตัด สองใบนี้จะมีค่าเท่ากัน ในเกมเสือมังกรไพ่แต่ละหน้าจะมีแต้มไพ่ดังนี้
เสือมังกรเป็นเกมพนันที่เล่นง่ายและมีโอกาสเสียเงินไวมาก เพราะความเสี่ยงที่ต่ำ โอกาสแพ้ชนะครึ่งต่อครึ่งทำให้นักเดิมพันส่วนใหญ่ไม่ค่อยทันระวัง เล่นแบบมีอารมณ์ร่วมไปกับเกมกลายเป็นว่าสุดท้ายหมดตัวก่อนได้ทุนคืน
ดังนั้นวิธีเล่นที่จะช่วยให้ทำกำไรได้ดีที่สุดคือการเล่นอย่างมีเป้าหมาย มีแผนการเล่นที่ชัดเจน และการเดินตามแผนอย่างเคร่งครัด หากสามารถทำตามนี้ได้แม้จะมีเงินทุนแค่ไม่กี่บาทก็สามารถปั่นกำไรได้หลายเท่าตัว
เป็นอีกหนึ่งสูตรที่นักเดิมพันมืออาชีพเลือกใช้ แม้จะไม่ช่วยเพิ่มโอกาสชนะให้แต่ก็ช่วยในเรื่องทำกำไรได้ไม่น้อย ซึ่งก็มีทั้งแบบเน้นทำกำไรระยะสั้น ระยะยาว ไปจนถึงสูตรเดินเงินสำหรับแก้สถานการณ์หรือที่เรียกกันว่าสูตรถอนทุน โดยเฉพาะสูตรเดินเงิน Martingale ได้รับการยอมรับว่าเป็นสูตรที่ดีที่สุดแล้วในการแก้เกม
สิ่งสำคัญที่จะต้องทำก่อนใช้สูตรเดินเงินก็คือการแบ่งเงินทุนออกเป็นหน่วยย่อย ให้แต่ละหน่วยมีค่าเท่ากัน เช่น มีเงินอยู่ 1,000 บาท แบ่งออกเป็นหน่วยละ 100 บาท ก็จะได้ทุน 10 หน่วย หรือจะใช้เดิมพันขั้นต่ำของโต๊ะมาตั้งเป็นมูลค่าหน่วยก็ได้ อย่างโต๊ะที่จะเล่นเริ่มต้น 10 บาท มีทุน 1,000 บาท ก็จะได้ทุนทั้งหมด 100 หน่วย ทีนี้เราก็ไปเข้าสูตรเดินเงินกันได้เลย
สูตรนี้มีอีกชื่อหนึ่งคือ “สูตรแทงทบ” บ้างก็เรียกว่า “สูตร 5 ไม้” เพราะใน 1 รอบสูตร จะต้องเล่นทั้งหมด 5 รอบ สูตรนี้นิยมใช้กันมาก หลักการของมันก็คือวางเดิมพันทบเข้าไปทุกครั้งที่แพ้ เมื่อชนะก็จะทำให้ได้เงินที่เสียไปกลับคืนมาพร้อมกับกำไรอีก 1 หน่วย เรียกได้ว่าถอนทุนไม่พอต่อกำไรให้อีกด้วย ส่วนวิธีใช้ก็มีดังนี้
สูตรนี้สิ่งสำคัญก็คือเงินทุนของเราจะต้องมีเยอะมากอย่างน้อยก็ 50-100 หน่วย เผื่อไว้เวลาที่แทงเสีย เช่นถ้าเสียติดกัน 5 ตา เราจะเสียเงินทั้งหมด 31 หน่วย หากมีเงินน้อยกว่านี้จะทำให้เสี่ยงที่จะทุนหมดก่อนถอนทุนคืนได้สำเร็จ
อีกสิ่งหนึ่งก็คือการเตรียมหน่วยลงทุนไม่ควรให้สูงเกิน เพราะอาจติดเพดานเดิมพันของโต๊ะได้ เช่น ตาที่ 5 วาง 16 หน่วย ถ้าเราเล่นหน่วยละ 100 เท่ากับว่าตานี้เราวาง 1,600 บาท แต่โต๊ะจำกัดแค่ 1,000 บาท อย่างนี้ก็ไปต่อไม่ได้อีกทำให้สูตรใช้ไม่ได้ผล ดังนั้นต้องดูด้วยว่าเดิมพันรอบสุดท้ายจะต้องไม่เกินเดิมพันขั้นสูงสุดของโต๊ะด้วย